…
คลุ้งเมฆครึ้มทึมอับพยับแดด
ร้อนที่แผดเผากายคลายคลุ้มคลั่ง
พลันเมฆฝนหม่นฟ้าเคลื่อนมาบัง
สายฝนหลั่งถั่งโถมชโลมกายประเดี๋ยวแดดประเดี๋ยวฝนมาวนเวียน
ฤดูผ่านกาลเปลี่ยนราวเวียนว่าย
ที่รุ่งรางพลางหม่นครึ้มฝนปราย
ที่ฝนพรำจะผ่อนคลายฉายตะวันพินิจดูรู้เห็นเป็นธรรมชาติ
เหนืออำนาจแห่งมนุษย์สุดเสกสรรค์
มีเรืองฟ้าร่วงฝนปะปนกัน
ธรรมดาสามัญย่อมผันแปรจึงไร้หลักพักใดให้ถือมั่น
เมื่อโลกพลันผันผวนป่วนกระแส
ล้วนกลอกกลับสรรพสิ่งไม่จริงแท้
จะเอาแน่นอนไยในชีวิตเมื่อมีรุ่งย่อมมีร่วงคอยพ่วงท้าย
ยังเวียนว่ายย่อมเวียนวนไม่พ้นลิขิต
ควรใคร่ครวญทวนทบค่อยขบคิด
เพียงน้อยนิดชีวิตหนึ่งพึงสังวรณ์…
Advertisements